+
ไม่มีหมวดหมู่ Home / Archive by category "ไม่มีหมวดหมู่"
  1. ทายนิสัยจาก สไตล์การแต่งห้องของคุณ

    Leave a Comment

     

    ทายนิสัยจาก สไตล์การแต่งห้องของคุณ

    นอกจากลัคนาราศีเกิดที่บ่งบอกถึงนิสัยของคนแต่ละคนได้แล้ว ทราบไหมว่ารูปแบบการตกแต่งบ้าน หรือคอนโด แต่ละสไตล์ก็พอจะบ่งบอกนิสัยเฉพาะตัวของคนๆ นั้นได้เหมือนกัน โดยห้องที่มีความเชื่อกันว่าจะสะท้อนความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้าน หรือคอนโดได้เด่นชัดที่สุดคือ “ห้องนั่งเล่น” เพราะเป็นห้องที่เราเปิดเผยตัวตนต่อบุคคลภายนอก และมักจะเป็นห้องที่เราจะใช้เวลาอยู่ข้างในมากที่สุด (นอกเหนือจากตอนนอน) ลองมาดูกันนะ ว่าการแต่งห้องสไตล์ที่คุณชอบ บ่งบอกนิสัยความเป็นตัวคุณอะไรกันบ้าง

    1. ชอบแต่งห้องแบบเรียบง่าย (Minimalist หรือ “Less is more” Design)
      รูป แบบสำคัญของการตกแต่งแบบนี้คือ เอาทุกอย่างที่ไม่จำเป็นออกให้หมด และเหลือแต่ส่วนประกอบที่จำเป็นเท่านั้น โดยส่วนประกอบที่เหลืออยู่พวกนี้จะต้องดูง่ายๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งความดูดี รูปทรงเฟอร์นิเจอร์จะไม่หลากหลาย และมักจะเน้นสีธรรมชาติเป็นหลัก สไตล์การแต่งห้องแบบนี้ค่อนข้างจะสะท้อนความเป็นระเบียบ และมีประสิทธิภาพของเจ้าของห้อง คนที่ชอบสไตล์นี้มักเป็นคนที่ชอบวางแผนก่อนที่จะทำอะไร และต้องการให้ทุกอย่างที่วางแผนไว้เป็นไปตามแผนทุกอย่าง
      นิสัย: เป็นคนสมบูรณ์แบบ (perfectionist) ระมัดระวังเป็นขั้นเป็นตอน (methodical) มีประสิทธิภาพ (efficient) มุ่งมั่น (determined) และเป็นคนขี้อายไม่ชอบสุงสิงกับใครมากนัก (introvert)

    ทายนิสัยจาก สไตล์การแต่งห้องของคุณ

    2.ชอบแต่งห้องแบบสแกนดิเนเวียน (Scandinavian Design)
    การ ตกแต่งแบบนี้มีต้นแบบมาจากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย (คือ เดนมาร์ค สวีเดน นอร์เวย์ และฟินแลนด์) ไอเดียพื้นฐานคือ ไม่ว่าคนจน หรือคนรวยควรจะสามารถเข้าถึง หรือใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทั้งสวย และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ดีได้ (IKEA เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายๆ ของไอเดียแบบนี้) การตกแต่งแบบนี้จะคล้ายกับ Minimalist แต่จะต่างกันนิดหนึ่งที่ว่า การตกแต่งแบบสแกนดิเนเวียนนี้จะเน้นความสบาย อบอุ่น และความมีชีวิตชีวามากกว่าจะมองแต่เรื่องประสิทธิภาพการใช้งานอย่างกลุ่มพวก Minimalist เพียงอย่างเดียว
    นิสัย: สนใจเรื่องวัฒนธรรม (interested in culture) เป็นมิตร (friendly) เท่ห์ทันสมัย (chic) มีความสง่างามอยู่ในตัว (elegant)

    2 ทายนิสัยจาก สไตล์การแต่งห้องของคุณ

    3. ชอบแต่งห้องแบบสีจัดๆ หรือแรงๆ นิดนึง (Pop Art Design)
    รูป แบบสำคัญของการตกแต่งแบบนี้คือ การใช้สี และงานตกแต่ง หรืองานศิลปะที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากชาวบ้านมาเป็นองค์ประกอบ นอกจากนี้ วัสดุตกแต่งแต่ละชิ้นมักจะมีเนื้อหา และเรื่องราวอยู่เบื้องหลังเสมอ เป็นต้นว่าของตกแต่งบางอย่างอาจเป็นตัวการ์ตูนที่เจ้าของบ้านชอบสมัยเป็น เด็ก โดยรวมคนที่แต่งห้องแบบนี้มักชอบความเป็นส่วนตัว และมีบุคลิกภาพที่ค่อนข้างซับซ้อน และอาจมีมุมมองต่อชีวิตที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่หลายๆ คน
    นิสัย: ลึกลับ (mysterious) ซับซ้อน (complex) มีความแตกต่าง (different) สดชื่นสดใส (fresh) มีความสง่างามอยู่ในตัว (elegant)

    ทายนิสัยจาก สไตล์การแต่งห้องของคุณ

    4. ชอบแต่งห้องแบบญี่ปุ่น (Japanese Design)
    การ ตกแต่งแบบญี่ปุ่นจะมีสไตล์ที่อิงกับวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ซึ่งจะเน้นเรื่องแสงธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ วัสดุที่เป็นธรรมชาติ และความเรียบง่ายในขณะเดียวกันก็ใช้งานได้ดี การตกแต่งแบบนี้จะมีไอเดียพื้นฐานที่ว่า สรรพสิ่งทุกอย่างมีความเกี่ยวพัน และขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเสมอ ดังนั้น ของทุกอย่างๆ จึงมีความสำคัญ และมีผลกระทบซึ่งกันและกันเสมอ
    นิสัย: เรียบง่าย (simple) มองโลกในแง่ดี (positive) มีระบบระเบียบ (organized) มีพลัง (energetic)

     

    ทายนิสัยจาก สไตล์การแต่งห้องของคุณ

    5. ชอบแต่งห้องออกแนวหลุยส์ หรือกรีกโรมันหน่อยๆ (Classic Design)
    การ ตกแต่งแบบนี้เน้นความสวยงามที่เป็นอมตะ และความหรูหราโอ่อ่าของห้อง โดยเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะต้องมาพร้อมกับความสวยงามที่มีคุณค่าเสมอ คนที่ชอบงานตกแต่งประเภทนี้มักจะเป็นคนชอบศิลปวัฒนธรรม การเมือง และประวัติศาสตร์ หากให้เปรียบเทียบกับการขับรถ คนที่แต่งบ้านแบบนี้มักจะชอบรถประเภท Mercedes Benz, Bentley หรือ Maserati มากกว่ารถแบรนด์Ford หรือ Hyundai
    นิสัย: เข้มงวด (rigid) มีหลักการ (upright) ใจกว้างมีศีลธรรม (noble) มีเสน่ห์ (charming)

    ทายนิสัยจาก สไตล์การแต่งห้องของคุณ
    6. ชอบแต่งห้องแบบหวานๆ และอนุรักษ์นิยมนิดนึง (Shabby Chic Design)
    ลักษณะ สำคัญของสไตล์นี้คือต้องมีความสง่างามแบบเก่าๆ ไม่ทันสมัยจ๋า มีลวดลายอ่อนหวาน และองค์ประกอบของดอกไม้ หรือลายลูกไม้นิดๆ เจ้าของห้องมักเป็นคนเป็นกันเอง เข้าสังคม และมองโลกในแง่บวก นอกจากนี้ ยังมีความพิถีพิถันสูงในการเลือกเฟอร์นิเจอร์ หรือของแต่งบ้านแต่ละชิ้น
    นิสัย: ชอบเข้าสังคม (social) สดชื่นสดใส (fresh) มีหัวศิลปะ (artistic) รักธรรมชาติ (love with nature) มีเสน่ห์และบารมี (charismatic)

    ทายนิสัยจาก สไตล์การแต่งห้องของคุณ
    7. ชอบแต่งห้องแบบใช้ของเก่าดั้งเดิม (Vintage)
    การ ตกแต่งแบบนี้จะเน้นสไตล์ของเก่าๆ และค่อนข้างมีจะความเฉพาะตัวมากๆ เจ้าของห้องแบบนี้มักมีสไตล์เฉพาะตัวสูง และรู้ตัวเองดีว่าชอบของแบบไหน หรือต้องการอะไร ดังนั้น กว่าจะไปหาของ หรือวัสดุตกแต่งมาแต่ละชิ้นได้ จึงมักใช้เวลาพอสมควร ของตกแต่งที่สะท้อนถึงความเป็น Vintage ก็เช่น กระเป๋าเดินทางหนัง ธงชาติอังกฤษ นาฬิกาเก่า เป็นต้น โดยภาพรวม บางคนมองว่าการตกแต่งสไตล์ Vintage บางทีจะค่อนข้างคล้ายกับแนว Retro แต่สองสไตล์นี้ในแง่เทคนิคจริงๆ ก็อาจมีความแตกต่างอยู่บ้าง เช่น บางคนมองว่า Retro คือของที่ทำขึ้นมาใหม่แต่อิงดีไซน์เก่าเท่านั้น เป็นต้น
    นิสัย: สมบูรณ์แบบ (perfectionist) มีความซับซ้อนในตัวเอง (complex) มุ่งมั่น (determined) มีพลังกระตุ้นแรงบันดาลใจ (motivated)

     

    ทายนิสัยจาก สไตล์การแต่งห้องของคุณ
    เป็นอย่างไรกันบ้าง กับสไตล์การแต่งห้องที่เรานำมาฝากกัน ตรงกันบ้างไหมเอ่ย

     

    บทความดีๆ โดย

    Checkraka.comและ baanstyle

  2. 5 วิธีเลือกผ้าม่านห้องนอนอย่างไรไม่ให้พลาด

    Leave a Comment

    วิธีเลือกผ้าม่านห้องนอนอย่างไรไม่ให้พลาด

    5 วิธีเลือกผ้าม่านห้องนอนอย่างไรไม่ให้พลาด

    การ เลือกผ้าม่านให้เข้ากับห้องนอนคุณนั้น ไม่ใช่แค่จะเลือกตามความชอบเท่านั้น แต่ยังต้องใส่ใจกับรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นสีสันของผ้าม่าน ลวดลายของผ้าม่าน หรือแม้จะเป็นคุณสมบัติของผ้า เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลกับภายในห้องนอนของคุณทั้งสิ้น วันนี้เรามี 5 เทคนิคการเลือกใช้ผ้าม่าน ให้เหมาะกับห้องนอนของคุณ ลองไปดูกันเลยค่ะ

    1. สีสันภายในห้องนอน

    สี ภายในห้องนอน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล จึงทำให้สีสันที่ใช้ภายในห้องแตกต่างกันออกไปด้วย สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงการเลือกหาผ้าม่านมาติด คือสีสัน และลักษณะตกแต่งห้องนอนโดยรวม หากห้องนอนมีพื้นที่กว้างอยู่แล้ว ก็สามารถเลือกใช้ผ้าม่านที่มีลวดลาย หรือผ้าม่านที่มีสีเข้มได้ แต่สำหรับคนที่มีห้องนอนขนาดเล็ก ก็ควรเลือกใช้สีผ้าม่านทีมีโทนสีใกล้เคียงกับผนังห้อง หรือเป็นสีสว่างไปเลยได้ยิ่งดี เพื่อจะทำให้ห้องนอนของคุณดูกว้างขึ้น และช่วยให้ห้องนอนไม่ดูคับแคบอีกด้วย

    1. หน้าต่างของห้อง

    นอก จากสีสันและสไตล์การแต่งห้องนอนแล้ว หน้าต่างห้องก็มีส่วนช่วยในการเลือกใช้ผ้าม่าน ถ้าหากหน้าต่างของคุณมีขนาดใหญ่ หรือสูงพอสมควร ให้เลือกผ้าม่านที่มีขนาดกว้างและยาวให้เหมาะสม อย่าใช้ผ้าม่านที่มีความสั้นจนบังอะไรไม่มิด ส่วนสีของผ้าม่านก็สามารถเลือกสีได้ตามใจชอบ หากหน้าต่างที่มีความโค้งมนแนะนำให้เลือกผ้าม่านที่มีลักษณะตรงกับความต้อง การ หากเลือกใช้สีอ่อนๆ ก็จะช่วยให้ห้องนอนของคุณดูน่ารักมากยิ่งขึ้น

    1. ทิศทางแสงและอากาศในห้องนอน

    ลอง มาดูเนื้อผ้าของผ้าม่านกันบ้าง หากหน้าต่างของห้องนอนคุณหันไปทางแสงแดดพอดี ไม่ควรเลือกใช้ผ้าบางอ่อนๆ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน เพราะจะทำให้ห้องนอนของคุณกลายเป็นเตาอบไปเลย ดังนั้น ถ้าห้องนอนของคุณเป็นทางที่แสงเข้า ควรใช้ผ้าที่มีสีเข้ม และใช้ผ้าที่มีความหนาพอประมาณ อย่างผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือผ้าม่านที่มีซับใน และยังช่วยกันแดดได้ดีอีกด้วย

    1. สไตล์การตกแต่งของบ้าน

    อีก อย่างที่สำคัญคือ สไตล์การตกแต่งบ้านของคุณ ถ้าเป็นสไตล์โมเดิร์น ลองเลือกใช้ผ้าม่านลายเก๋ๆ หรือผ้าม่านที่มีสีสันตัดกับโทนสีภายในห้อง ก็จะช่วยให้ห้องนอนของคุณดูทันสมัยมากขึ้นอีก ส่วนใครที่แต่งบ้านในสไตล์คลาสสิค ก็ควรเลือกผ้าม่านสีเอิร์ธโทน มีลายนิด ๆ หน่อย ๆ เฉดสีใกล้เคียงกับโทนสีของห้อง ก็ดูกลมกลืนดีเหมือนกันนะ ส่วนสาว ๆ ที่ตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจพลาดไม่ได้เลยล่ะที่จะพิจารณาผ้าม่านสีหวานพาสเท ลเป็นอันดับแรก

    1. คุณสมบัติของเนื้อผ้า

    ผ้าม่านบางชนิดนั้น มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ และถอดซักยากค่อนข้างลำบาก ดังนั้นคุณก็ควรเลือกผ้าที่มีการเคลือบผิว เพราะผ้าชนิดนี้ไม่ดูดซึมน้ำและดูแลรักษาง่าย แค่ดูดฝุ่นสัปดาห์ละครั้งก็พอ ที่สำคัญผิวของผ้าม่านที่มีความมันวาว จะสะท้อนแสงได้ดีกว่า ซึ่งคุณสมบัตินี้จะทำให้ผ้าม่านคงความใหม่ได้นานขึ้น ส่วนผ้าม่านที่ผลิตจากผ้าฝ้าย หรือผ้าลินิน ถึงแม้จะสกปรกง่ายไปสักนิด แต่เนื้อผ้าค่อนข้างโปร่ง สามารถเปลี่ยนแสงแดดอันร้อนแรงให้กลายเป็นแสงอ่อน ๆ ชวนฝันได้ในพริบตา ยังไงคงต้องลองไปสัมผัสเนื้อผ้าและพิจารณาคุณสมบัติที่ชอบกันดู

    ข้อมูลจาก www.homenayoo.com

  3. เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน

    Leave a Comment

     

     

    ผ้า ม่านมีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยควบคุมแสงในเวลากลางวัน สร้างความเป็นส่วนตัวในเวลากลางคืน ช่วยเก็บเสียง และป้องกันฝุ่นละอองที่จะเข้ามาในบ้าน ด้วยความสำคัญของผ้าม่านที่เราไม่ควรละเลย นั่นคือ การเลือกประเภทของม่าน  ชนิดของรางผ้าม่าน และ ชนิดของผ้าจึงเป็นขั้นตอนที่เราควรจะรู้ในการสั่งทำผ้าม่าน

    ประเภทของม่าน

    ม่านมีหลายประเภทหลายลักษณะ ควรเลือกตามการใช้งาน และลักษณะที่เหมาะสมกับประตู-หน้าต่างของคุณด้วย

    -ม่านจีบเป็น ม่านที่ได้รับความนิยมมากและมีมายาวนาน ใช้งานสะดวก ลักษณะของม่านคือมีการจับจีบด้านบน เว้นระยะเท่าๆกัน สามารถติดได้ 2 ชั้น คือม่านโปร่งและม่านทึบ สามารถใส่รางตัว ซี หรือรางโชว์ก็ได้ ม่านจีบเป็นม่านที่เหมาะกับการแต่งบานทุกสไตล์เลยค่ะ ต่างกันเพียงการเลือกเนื้อผ้าและสีรวมถึงลวดลาย

    เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน
    -ม่านพับเป็น ม่านอีกชนิดที่ได้รับความนิยมมาก เพราะความที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย มีลักษณะเป็นชั้นพับซ้อนทับกันเมื่อดึงม่านเปิดขึ้นรับแสงสว่างจากภายนอก แต่จะเปลืองผ้ามากกว่าแบบแยกกลาง ม่านพับมักใช้เมื่อต้องการเน้นแนวตั้งของประตูหรือหน้าต่าง หรือใช้กับหน้าต่างบานเล็กและติดกันหลายบาน จะทำให้ไม่ต้องเปิดม่านทั้งหมด ม่านชนิดนี้ทำความสะอาดง่าย สามารถถอดซักได้เช่นกันค่ะ

    เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน

     

    -ม่านตาไก่ ถ้าคุณชอบความสะดวกสบายในการติดตั้ง และความเรียบง่ายของผ้าม่าน ม่านตาไก่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ เพราะม่านชนิดนี้ติดตั้งง่ายด้วยอุปกรณ์ม่านตาไก่แบบห่วงที่ยึดประกบตัวผ้า สองด้าน หน้าหลัง มีน้ำหนักเบาเมื่อยึดติดกับผนังบ้านทำให้เกิดความอิสระของตัวผ้าม่าน ควรเลือกผ้าที่มีน้ำหนักพอสมควรแต่ไม่หนักเกินไป จะทำให้ผ้าม่านทิ้งลอนสวยกำลังดีค่ะ

    เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน

     

    -ม่านคอกระเช้าค่อน ข้างเป็นสไตล์ธรรมชาติ และร่วมสมัย คุณสามารถตัดเย็บเองได้ง่ายๆ เพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆในการติดตั้งเลยนอกจากผ้า และราวผ้าม่าน สามารถแต่งลูกเล่นได้ด้วยการเย็บติดกับกระดุม หรือทำโบว์เอามาผูกให้ผ้าม่าน จึงเหมาะกับคนที่ชอบงานที่ดูเป็นงานฝีมือ ไม่เนี้ยบมากเกินไป แต่ถ้าคุณชอบความเรียบมากๆ โดยที่สามารถเย็บผ้าม่านแบบนี้เองได้ คุณควรเลือกผ้าที่มีสีในโทนเดียวกันกับราวม่าน และไม่มีลวดลายใดๆมากนัก

     

    เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน


    -ม่านหลุยส์
    แสดงถึงความหรูหรา ประณีต และรสนิยมของเจ้าของบ้านที่มีระดับ สไตล์ของม่านหลุยส์สามารถเลือกผ้าได้หลากหลายเช่น ผ้าม่านทึบเนื้อดี ลวดลาย สีสันสวยงามและผ้าโปร่งแสนหวาน กับการเพิ่มชายครุยเย็บติดที่ชายผ้าบริเวณต่างๆ เพื่อเพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับม่านหลุยส์ยิ่งขึ้น แต่ข้อเสียของม่านแบบนี้คือจะดูแลรักษายาก และเก็บฝุ่นมาก

    เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน


    -ม่านปรับแสง
    จาก เมื่อก่อนที่ม่านประเภทนี้นิยมใช้ในออฟฟิศเท่านั้น แต่ปัจจุบันม่านปรับแสงก็ถูกนำไปใช้ในบ้านพักอาศัยที่เจ้าของต้องการความโม เดิร์น ดูทันสมัย และดูแลง่าย วัสดุที่ใช้ทำใบม่านมีทั้งผ้า และอลูมิเนียม มีทั้งแบบโปร่งแสงและทึบแสง สามารถเปิดได้ทั้งแบบข้าง และแยกกลาง ปรับมุมแสงได้ถึง 180 องศา ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง แบคทีเรีย และเชื้อราต่างๆ

    เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน

     

    -ม่านม้วน เหมาะกับคนที่ชอบแต่งบ้านสไตล์ เรียบง่ายแต่ทันสมัย ม่านม้วนมีข้อดีหลายอย่าง เพราะนอกจากป้องกันความร้อนและลดความสว่างของแสงได้ดีแล้ว ยังใช้งานง่าย สะดวก ปรับความสูงได้ตามที่ต้องการ ใช้เนื้อที่ในการติดตั้งไม่มาก ทำความสะอาดง่าย ม่านม้วนมีทั้งชนิดแบล็คเอ้าท์ เป็นชนิดทึบแสง สามารถกันแสงได้ถึง 100% ชนิดซันสกรีน เหมาะกับการตกแต่งที่ต้องการทั้งแสงสว่างและความเป็นส่วนตัวในเวลาเดียวกัน และชนิดดิมเอ้าท์ ที่สามารถกันแสงผ่านทะลุได้ถึง 70 %

    เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน

     

    -มู่ลี่ มีทั้งแบบที่ทำจากไม้ และอลูมิเนียม ถ้าเป็นแบบไม้ออกแนวทรอปิคอล ก็จะให้อารมณ์ความรู้สึกที่ดูเป็นธรรมชาติ อบอุ่น แต่ก็ดูหรูหรา ถ้าเป็นอลูมิเนียมก็จะดูโมเดิร์น ไม่ค่อยอบอุ่น แต่ทำความสะอาดง่าย ค่อนข้างจะเหมาะกับออฟฟิศมากกว่า การใช้มู่ลี่อาจนำไปใช้ในบริเวณที่ไม่ สามารถใช้ผ้าม่านได้เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ มีข้อดีคือ แข็งแรง ปรับทิศทางแสงไปตามทิศทางที่ต้องการได้

    เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน

     

    ประเภทของรางผ้าม่าน

    รางม่าน มี 3 ชนิด คือ รางม่านแบบโชว์ , รางม่านสำหรับใช้งานเท่านั้น และรางม่านพับ

    – รางม่านโชว์ เหมาะสำหรับม่านที่คุณออกแบบเอง ทำเอง เย็บเอง เพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ในการติดตั้งมากมาย คือทำม่านให้เป็นช่องเพื่อสอดราวเข้าไป ราวลักษณะนี้มีให้เลือกทั้งแบบไม้กลึง เหล็ก ทองเหลือง เหล็กเคลือบพีวีซั หัว-ท้ายของราว อาจเป็นแบบเรียบๆ กลมกลืนไปกับราวหรือเป็นแบบดีไซน์อื่นๆก็ได้ ราวม่านแบบโชว์ไม่มีเชือกให้ดึงม่าน แต่จะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าแบบมีเชือก

    เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน

     

    – รางม่านสำหรับใช้งานมี อยู่หลายแบบ ทั้งแบบไมโครหรือแบบตัวยู รางตัวซี และรางโค้งดัดมือ ซึ่งใช้ได้กับม่านแบบม่านจีบอย่างเดียวมีทั้งแบบแบบมีเชือกดึงเวลาปิดเปิด ม่าน และแบบไม่ใช้เชือกดึง แต่มักใช้ด้ามจูงม่านดึงเวลาปิดเปิดม่าน ตัวรางและขาจับทำจากอลูมิเนียม ห่วงเป็นพลาสติกแบบลูกล้อ มีหลายเกรดให้เลือกใช้ การจะทำให้การติดรางม่านแบบนี้ดูเรียบร้อย สถาปนิกมักจะออกแบบตั้งแต่ต้นให้กดฝ้าลง และเผื่อพื้นที่เป็นหลุมให้บริเวณที่จะติดตั้งม่าน แต่ถ้าไม่ได้เผื่อไว้ คุณสามารถให้ช่างทำกล่องซ่อนม่าน เพื่อให้งานตกแต่งดูเรียบร้อย

    เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน


    – รางม่านพับ
    ใช้สำหรับทำม่านพับ ม่านประเภทนี้นำไปใช้การทำม่านยกในโรงละครด้วย ซึ่งการเปิด-ปิดม่านจะใช้เชือกดึง ตัวรางทำจากอลูมิเนียม อุปกรณ์ประกอบรางทำจากพลาสติก มีหลายเกรดให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ

    เลือกรูปแบบผ้าม่านให้เหมาะกับบ้าน

     

    ขอขอบคุณทุกรูปภาพที่เราได้นำมาประกอบการเขียนบทความนี้

    บทความจาก  www.forfur.com